หน้าแรก >> บริการของเรา วิเคราะห์เทคโนโลยีป้องกันประเทศ
วิเคราะห์เทคโนโลยีป้องกันประเทศ
ระเบิดแบบ JDAM ทำงานอย่างไร?
Created by : , Publish 05 Sep 2012 , Views 13576
ระเบิดแบบ JDAM ทำงานอย่างไร?


JDAM เป็นคำย่อมาจาก  "Joint Direct Attack Munition" หมายถึงวัตถุระเบิดเพื่อใช้โจมตีร่วม  JDAM เป็นชุดอุปกรณ์นำวิถี ที่สามารถแปลงระเบิดไม่นำวิถี (dumb bomb) ให้เป็นระเบิดฉลาด (smart bomb) ที่ใช้ได้ทุกกาลอากาศ โดยระเบิดที่ติดตั้งอุปกรณ์ JDAM แล้ว จะมีขีดความสามารถในการนำวิถีแบบบูรณาการระหว่าง  inertial guidance system ควบคู่กับ GPS ซึ่งจะทำให้มีระยะปฏิบัติการถึง 15 nm หรือประมาณ 28 กม.  ระบบนำวิถีนี้พัฒนาโดยกองทัพอากาศร่วมกับกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา (จึงก่อให้เกิดคำว่า  "joint" ใน JDAM) ซึ่งวัตถุประสงค์ของ JDAM นั้นเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีของระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์และอินฟราเรดให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งแต่เดิมอาจถูกลดทอนประสิทธิภาพลงเมื่ออยู่ในสภาพทัศนวิสัยหรือสภาพอากาศไม่ดี

ชุดอุปกรณ์ JDAM (ผลิตโดยบริษัท Boeing Integrated Defense Systems) ประกอบด้วยชุดพวงหาง เพื่อใช้ประกอบติดกับส่วนท้ายของลูกระเบิดแบบ 2,000, 1,000 หรือ 500 ปอนด์ ซึ่งชุดอุปกรณ์นี้มีครีบหาง 4 ครีบ โดยเป็นแบบตรึง 1 ครีบ และอีก 3 ครีบสามารถเคลื่อนไหวเพื่อปรับทิศทางของระเบิด นอกจากนี้ยังมีส่วนโครงสร้างเล็กๆ ที่ห่อหุ้มรอบส่วนกลางของลูกระเบิดเพื่อให้เกิดความเสถียรในการเคลื่อนที่ สำหรับราคาของชุดอุปกรณ์นี้ประมาณ $20,000 (ไม่รวมราคาลูกระเบิด) ซึ่งประหยัดกว่าระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์ที่มีมูลค่ากว่า $120,000

JDAM นั้นถูกควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์เล็กๆ ที่ใช้หน่วยประมวลผล  Motorola PowerPC processor ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่บริษัท Apple ใช้ในคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะแบบ Power Macintosh สำหรับระบบซอฟต์แวร์นั้นทางบริษัท Boeing จะติดตั้งไว้ให้เรียบร้อยก่อนที่จะมีการขนส่งอุปกรณ์ แต่อุปกรณ์เหล่านี้จะถูกทดสอบและบางกรณีอาจมีการอัพเดทก่อนที่จะถูกติดตั้งบนอากาศยานระบบคอมพิวเตอร์ดังกล่าวถูกติดตั้งอยู่กับส่วน Inertial Measurement Unit หรือ IMU โดย IMU นี้จะเป็นตัวติดตามการเคลื่อนที่ของลูกระเบิดหลังจากถูกปลดออกจากอากาศยาน และยังมีการอัพเดทสถานะกับระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อให้เกิดความแม่นยำยิ่งขึ้นจึงได้มีการใช้งานร่วมกับระบบ GPS ที่ใช้ระบบดาวเทียมในการติดตามพิกัดตำแหน่งของลูกระเบิด โดยจะมีการอัพเดทกับระบบ IMU อย่างต่อเนื่อง

ก่อนที่มีการปล่อยระเบิด จะต้องมีการปรับปรุงข้อมูลให้ตรงกันระหว่างระบบคอมพิวเตอร์กับระบบนำวิถีบนอากาศยาน โดยในระหว่างนี้จะมีการทดสอบระบบ Inertial Navigation System ของระเบิดกับระบบนำวิถีของอากาศยานเพื่อให้การติดตามเป็นไปอย่างถูกต้องแม่นยำ ระบบคอมพิวเตอร์บนอากาศยานยังต้องตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ของลูกระเบิดและระบบอื่นๆ อีกด้วย หากมีการตรวจพบข้อผิดพลาด จะทำให้ไม่สามารถใช้งานระเบิดได้ ต้องมีการเปลี่ยนทดแทนต่อไป

เมื่อลูกระเบิดถูกปล่อยออกไป จะใช้เวลาไม่เกิน 30 วินาทีสำหรับระบบ GPS ในการค้นหาพิกัดตำแหน่งของตนเอง หลังจากนั้นระบบ GPS, ระบบ IMU และระบบคอมพิวเตอร์ จะส่งสัญญาณไปควบคุมครีบหางทั้ง 3 ครีบ เพื่อปรับเปลี่ยนมุม/ทิศทางและนำวิถีลูกระเบิดเข้าสู่เป้าหมายต่อไป

ระเบิด JDAM มีบทบาทอย่างมากในสมรภูมิอัฟกานิสถานในปี ค.ศ.2001 และยังคงดำรงบทบาทสำคัญต่อไปในภารกิจการใช้ระเบิดของกองทัพสหรัฐอเมริกาในอนาคตอันใกล้นี้

อ้างอิง :
http://www.cbsnews.com/2100-500163_162-546034.html
http://science.howstuffworks.com/smart-bomb.htm

สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (แจ้งวัฒนะ) ชั้น 5 เลขที่ 47/433 หมู่ 3 ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 โทรศัพท์ : 0 2980 6688, โทรสาร : 0 2980 6199


ติดตามผ่านสื่อ Social ที่ : Facebook, Youtube

เว็บไซต์สถาบันเทคโนโลยีสารสนเทศ ขออนุญาตใช้คุ๊กกี้เพื่อให้เว็บไซต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ท่านสามารถอ่านนโยบายคุ้กกี้ได้ ที่นี่.

Copyright © 2025 Defence Technology Institute. All Rights Reserved.